ทริปนี้เป็นทริปด่วนที่ไม่มีการวางแผนอะไรไว้เลย นึกจะมาก็มาทันที ออกจากบ้านขึ้นรถประจำทางตรงมายังสนามหลวงตั้งแต่เช้า (กลัวรถติด >//<) บรรยากาศแรกที่พบเห็นนั้นคือความเงียบสงบของกรุงเทพฯ (ก็แน่สิ ตี 5 ใครจะตื่นมาเดินสนามหลวง)
รูปปั้นช้าง 4 เศียร บริเวณทางแยก ที่มีแสงไฟสาดส่องสวยงาม |
หลังจากได้ภาพงาม ๆ ภาพแรกมาแล้วนั้น ผมก็มุ่งตรงไปหาทางเข้าสนามหลวง เพื่อนั่งรอพระอาทิตย์ขึ้นเพราะนัดกับพี่ท่านนึงไว้ ให้พี่พาเที่ยว (กลัวหลงทาง)
แวะไหว้พระแม่ธรณีสักหน่อย (GPS 13.756597, 100.494714) |
ศาลพระแม่ธรณีบีบมวยผม หรือ อุทนทาน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2460 จากพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชนนีพระพันปีหลวง สร้างขึ้นเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ประชาชน เพื่อจะได้ใช้น้ำในการบริโภคและถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนเคารพนับถือ (ที่มา : lib.su.ac.th)
บรรยากาศที่พบได้ทั่วไป ผู้คนมาออกกำลังกาย ณ ท้องสนามหลวง |
เดินไปอีกนิดก็เจออีกคน เค้ากำลังทำอะไรกันอยู่นะ |
รอจนพระอาทิตย์เริ่มจะขึ้น พี่ผมก็มาถึง มาพาเดินทัวร์กรุงเทพ (รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้านนอกเข้ากรุงยังไงไม่รู้ เขิน) สถานที่แรกที่เราไปกันนั้นคือ ศาลหลักเมือง (GPS 13.752577, 100.494087) ซึ่งอยู่ตรงข้ามสนามหลวงนั่นเอง
บรรยากาศจากภายนอก มองเข้าไปยังศาลหลักเมือง |
ศาลหลักเมือง |
ไหว้พระสักหน่อย พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง เจ้าพ่อหอกลอง พระกาฬไชยศรี เจ้าพ่อเจตคุปต์ |
ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เป็นศาลที่สร้างขึ้นมาพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ตามธรรมเนียมพิธีพราหมณ์ว่า ก่อนที่จะสร้างเมืองจะต้องทำพิธียกเสาหลักเมืองในที่อันเป็นชัยภูมิสำคัญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองที่จะสร้างขึ้น (ที่มา : wikipedia.org)
หลังจากไหว้ศาลหลักเมืองเสร็จ บรรยากาศรอบบริเวณยังคงสงบเงียบ ผมเลยขอเก็บภาพวัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) (GPS 13.751407, 100.492578) ก่อนไปจุดต่อไปต่อ
วัดพระแก้วยามเช้าอันแสนสงบ |
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง และมีพระราชประสงค์ให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ที่นำมาจากกรุงเวียงจันทร์ และเป็นสถานที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ เพราะมีแต่ส่วนพุทธาวาสไม่มีส่วนสังฆาวาส (ที่มา : wikipedia.org)
หลังจากนั้นผมก็เดินต่อไปยังศาลเจ้าพ่อเสือ (GPS 13.753750, 100.498450) เนื่องจากอยู่ไม่ไกลกันมาก เดินเส้นทางไหนไม่ทราบนะครับ ในทริปนี้เดินตามอย่างเดียว หลงกรุงเทพของจริง >///<
ศาลเจ้าพ่อเสือ ยามเช้า คนเริ่มเยอะ |
ศาลเจ้าพ่อเสือ เป็นศาลเจ้าชาวจีนแต้จิ๋ว (สายลัทธิเต๋า) ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย คนจีนเรียกกันว่า "ตั่วเล่าเอี้ย" เป็นศาลเจ้าที่ประดิษฐาน เฮี้ยงเทียนเซียงตี่ (เหี่ยงเทียงเสี่ยงตี่ ก็เรียก) รูปเจ้าพ่อเสือ เจ้าพ่อกวนอู และเจ้าแม่ทับทิม เป็นที่เคารพนับถือของทั้งชาวไทยและจีนเป็นอย่างมาก (ที่มา : alternativecomplete.com)
หลังจากกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ก็ไปสู่เป้าหมายต่อไปคือเสาชิงช้า สัญลักษณ์ที่ใคร ๆ ก็มาถ่ายรูปกัน ระหว่างทางไปนั้น ผมก็ได้พบเจอกับสิ่งที่ผมไม่รู้จัก (เห้ยนี่เราเป็นคนกรุงเทพฯ แน่เหรอ) นั่นก็คือ ซุ้มประตูวังสรรพสาตรศุภกิจ (GPS 13.753343, 100.498391)
ซุ้มประตูวังสรรพสาตรศุภกิจ |
ประวัติซุ้มประตูวัง |
เขียนมายาวแล้ว ไว้อ่านต่อใน ตอนที่ 2 นะครับ :)
--- Share this ---