วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

วัดถ้ำเสือ - วัดบ้านถ้ำ วัดขึ้นชื่อเมืองกาญจนบุรี

     ทริปนี้ลุยเดี่ยวไปด้วยความที่คิดว่ามันชิล ๆ  เพราะก็แค่ไหว้พระและเป็นทางผ่านที่ผมไปทำงานพอดีจึงขอแวะสักหน่อย แต่เอาเข้าจริงกลับเหนื่อยแฮะ!!! จะเหนื่อยยังไงก็ลองอ่านดูครับ

     โดยเริ่มกันที่วัดแรก วัดถ้ำเสื้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี (พิกัด 13.953417, 99.605659) วัดนี้เคยมาแล้วครั้งนึง เมื่อนานมาแล้ว การกลับมาครั้งนี้ก็ไม่ต่างจากครั้งเดิม มาในวันทำงาน ผู้คนไม่มากไม่มาย จะมีก็เพียงแต่นักท่องเที่ยวที่ทัวร์พามาลง ที่วัดถ้ำเสือนี้จะมีลานจอดรถที่ข้างล่าง ส่วนพระประธานองค์ใหญ่โตที่ใคร ๆ ก็ต่างมาไหว้นั้นจะต้องขึ้นภูเขาไปไม่สูงเท่าไร แต่สำหรับคนที่ไม่ไหวก็จะมีรถกระเช้าคอยบริการรับส่งขึ้นลง


วัดถ้ำเสื้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
มุมนี้ยิ่งใหญ่อลังการ
วัดถ้ำเสื้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
ชมจากอีกข้างก็งามไม่ต่างกัน
วัดถ้ำเสื้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
มุมนี้ต้องปีนขึ้นเจดีย์ข้าง ๆ แล้วค่อยมองลงมา

     หลังจากนั้นผมก็ไปต่อที่วัดบ้านถ้ำ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี (พิกัด 13.970466, 99.578748) และที่วัดนี้เอง ที่ทำให้ผมรู้สึกได้ว่าการเที่ยววัดมันเหนื่อยจริง ๆ นะ!!! ส่วนสาเหตุนั้น ก็เพราะผมคิดว่าวัดนี้มีนิดเดียว แต่จริง ๆ  ผมเดินขึ้นไปถึงบนยอดเขาที่เห็นเจดีย์อยู่ไกลสุด ๆ ตามภาพข้างล่างครับ...


วัดบ้านถ้ำ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
จุดเริ่มต้นของการเดินขึ้นเขาไหว้พระ...

     โดยก่อนที่ผมจะขึ้นไป ผมคิดว่าที่วัดนี้น่าจะมีแค่เดินทะลุมังกรเข้าไปไหว้พระในถ้ำที่ปลายหางมังกร แต่แท้จริงแล้วเมื่อผมไปถึงกลับพบว่ามีป้ายบอกทางไปยังอีกถ้ำต่อ นั่นก็คือถ้ำม่านวิจิตร ชื่อก็อลังการงามขนาดนี้ แล้วจะไม่ไปต่อได้ยังไง



มังกร วัดบ้านถ้ำ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
มังกรที่ทำให้ผมมาถึงที่วัดนี้
มังกร วัดบ้านถ้ำ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
ดูแบบใกล้ ๆ  แต่แดดแรงไปนะ
พระ วัดบ้านถ้ำ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
พระในถ้ำที่ปลายหางมังกร
     ด้วยความที่อยากรู้อยากเห็นสุด ๆ  เวลาก็เที่ยงวันแล้ว ข้าวก็ยังไม่กิน จะเดินลงไปกินแล้วค่อยกลับขึ้นมาก็เสียเวลา และไม่รู้ว่าถ้ำม่านวิจิตรนั้นอยู่ไกลหรือใกล้แค่ไหน ผมจึงรีบทำเวลาด้วยการลุยทีเดียวให้จบแล้วค่อยลงมาพักผ่อนทีเดียว แต่หนทางข้างหน้านั้นกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะเส้นทางที่ไปนั้นไกลเกินกว่าที่คิดไว้มาก ถึงขนาดที่ว่าหลาย ๆ  คนที่ไปในเวลาใกล้เคียงกันเดินกลับลงมากลางทาง แต่ที่จริงเป็นเพราะแต่ละคนต่างขึ้นมาโดยไม่รู้ว่าถ้ำมันอยู่ไกล เหมือนไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมากกว่า

     ส่วนรูประหว่างทางไม่มีนะครับ เพราะเวลานั้นผมคิดแต่ เมื่อไรจะถึง!? หลังจากที่เดินขึ้นมาเรื่อย ๆ  จนในที่สุดผมก็พบถ้ำม่านวิจิตร แต่ก็ต้องทำให้ผมลังเลอยู่สักระยะก่อนจะลุยเข้าไป เพราะเมื่อมองจากปากถ้ำลงไป มันมืดเกินไปนะ แถมคนอื่นก็ไม่กล้าเข้ากัน


ถ้ำม่านวิจิตร วัดบ้านถ้ำ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
ขึ้นมาตั้งไกล ทำไมยังต้องเดินลงอีก แล้วลงไปแค่ไหนกัน!?
ถ้ำม่านวิจิตร วัดบ้านถ้ำ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
บรรยากาศภายในถ้ำม่านวิจิตร

     จากปากถ้ำม่านวิจิตรนั้นยังมีทางให้เดินขึ้นไปต่อ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรเมื่อไปต่อ แต่ยังไงซะ เมื่อมาถึงที่ก็ต้องลุยให้สุดทาง จนในที่สุดก็เจอเจดีย์ข้างบน ที่ตอนแรกผมคิดว่าเป็นของวัดอื่น... ซึ่งบนนี้จะมีพระรูปนึงนั่งประจำอยู่ ท่านบอกกับผมว่าท่านเดินขึ้นลงทุกเช้าเย็นยังเหนื่อยเลย


เจดีย์ วัดบ้านถ้ำ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
เจดีย์บนยอดเขา วัดบ้านถ้ำ

     ส่วนขาลงนั้น ผมลงด้วยความรวดเร็วมาก เร็วจนงงว่าเอ๊ะ ถึงแล้วเหรอ ตอนขึ้นมันตั้งไกลนิหว่า...

--- Share this ---