วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ทริปหลีเป๊ะ 3 วัน 2 คืน ในช่วงเวลาชิล ๆ ตอนที่ 1

ชิงช้าหน้าที่พักหลีเป๊ะ
ชิงช้าหน้ารีสอร์ท

     เปิดตัวทริปด้วยรูปจากหน้าที่พักสักหน่อย บรรยากาศสงบ ๆ  เหงา ๆ  พิกลกับหลีเป๊ะ เกาะทางใต้ฝั่งอันดามันที่ผู้คนต่างพากันไปเที่ยวจนแออัด แต่ก็ยังมีมุมสงบ ๆ  ให้พักผ่อนอยู่อีกมากหลาย

     เกาะหลีเป๊ะ เป็นเกาะกลางทะเลอยู่ในเขตจังหวัดสตูล อยู่ทางตอนใต้ของเกาะอาดัง ห่างจากแผ่นดินของจังหวัดสตูล 62 กิโลเมตร นอกเขตอำนาจการควบคุมของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตาในจังหวัดสตูล เป็นชายหาดบนเกาะที่อุดมไปด้วยท้องทะเลที่สดใสสะอาด สวยงาม เป็นเกาะที่เงียบสงบ และมีน้ำที่ตื้นเขิน จุดเด่นของทางเกาะหลีเป๊ะ คือ ความเป็นธรรมชาติของปะการังรายล้อมรอบเกาะ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายละเอียดนิ่มนวลขาวเหมือนแป้ง เกาะหลีเป๊ะ มีชายหาดที่สำคัญ ๆ อยู่ 4 หาด ได้แก่ หาดพัทยา หาดซันไรซ์ หาดคาร์มา หาดซันเซ็ท เกาะหลีเป๊ะ เป็นเกาะที่มีความกว้างระหว่างหัวเกาะไปถึงท้ายเกาะประมาณ 3 กิโลเมตร จัดเป็นเกาะขนาดเล็ก ถือเป็นเกาะที่อยู่สุดท้ายทางตอนใต้ของทะเลอันดามันของไทย

     ทริปนี้ผมเลือกที่จะขับรถไปกับเพื่อน จากกรุงเทพไปถึงสตูลเลยทีเดียว ระยะทางประมาณ 937 กิโลเมตร ผลัดกันขับ พวกเราออกเดินทางกันตอนเย็น ไปถึงท่าเรือในตอนเช้าของอีกวัน โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี แล้วเลี้ยวเข้าทางถนน 403 เพื่อมุ่งสู่จังหวัดตรัง และตรงต่อไปยังท่าเทียบเรือปากบารา


ลานจอดรถ
บรรยากาศยามเช้า ไร้ผู้คน
ทางผ่านขึ้นเรือ
เงียบสงบสุด ๆ  ก็แหงละ คนยังไม่ตื่นกัน
สัญลักษณ์ที่ท่าเทียบเรือ
สัญลักษณ์ปลาคู่ ความหมายคืออะไร ใครทราบบอกที
     หลังจากที่เดินทางถึงท่าเทียบเรือปากบาราในตอนเช้า พวกเราก็เตรียมเสบียงจาก 7-11 เนื่องจากบนเกาะนั้น อาหารการกินแพงกว่าบนฝั่ง 2-3 เท่าเลยทีเดียว ส่วนรถยนต์ส่วนตัวก็นำไปฝากที่ร้านบังวร คืนละ 100 บาท และทำการจองตั๋วเรือเพื่อไปยังเกาะหลีเป๊ะ โดยเรือขึ้นเกาะนั้นจะมี 2 แบบคือ ตรงไปที่เกาะเลย และแวะเกาะตะรุเตาและเกาะไข่ ซึ่งพวกเราเลือกอย่างหลัง เพราะเวลาเหลือเยอะมาก ค่าใช้จ่ายไปกลับต่อคนอยู่ที่ 900 บาท (ต่อราคาอยู่นานพอควร เพราะราคาตั้งอยู่ที่ 1200 บาท)


น้ำทะเลสวยใส
น้ำใสทะเลสวย ณ เกาะตะรุเตา
ดึงเชือก
พี่เค้าดึงเรือไม่ให้หลุดลอยไปใช่มั้ย!?
เกาะไข่
ซุ้มประตูหิน เกาะไข่

     ซุ้มประตูหิน ณ เกาะไข่ สถานที่ซึ่งมีความเชื่อว่าคู่รักคู่ใดได้ลอดซุ้มประตูหินนี้ จะสมหวังในความรัก และครองคู่กันอย่างมีความสุข มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง

     หลังจากนั้น เรือก็พาเราไปขึ้นโป๊ะหน้าหาดพัทยา เกาะหลีเป๊ะ เพื่อให้ต่อเรือไปยังรีสอร์ทที่หมายของเรา ซึ่งที่หมายของเราในครั้งนี้คือ ศลิษารีสอร์ท ที่หาดซันไรซ์ นั่นเอง (ไม่มีรูปที่พัก ลืมถ่าย) หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยก็ทานอาหารกัน และพายเรือคายัคเล่น (ไม่ได้ถ่ายรูปอีกเช่นเคย กลัวกล้องเปียก) จนกระทั่งตอนเย็นก็ออกตามล่าอาทิตย์ตกดินต่อ แต่เนื่องจากคำนวณเวลาผิด จึงไปไม่ทันอาทิตย์ตกดิน !! ได้แต่ภาพฟ้าเปลี่ยนสีมา


หลังอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ฟ้าเปลี่ยนสีหลังอาทิตย์ลับขอบฟ้า
บรรยากาศชิล ๆ
นางเอก MV เพลงไรน๊อ?

     หลังจากนั้นก็ได้เวลาอาหารเย็น ซึ่งเป้าหมายของพวกเราก็คือถนนคนเดินใจกลางเกาะ ที่ซึ่งรวบรวมร้านอาหารและความบันเทิงบนเกาะไว้ เดินจากที่พักไปไม่ไกลก็ถึง โดยร้านแรกที่แวะนั้นคือร้านนุชโรตี ที่มีความหลากหลายของโรตีมากมาย ซึ่งรสชาตินั้นถือว่าใช้ได้เลย


โรตีกล้วย ช็อก ไอติม
โรตีกล้วย ราดช็อก โปะด้วยไอศครีม
โรตีกล้วยราดนม
โรตีกล้วยราดนมข้น
โรตีกล้วยนูเตลล่าร้านนุชโรตี
โรตีกล้วยนูเตลล่า


     และสุดท้ายคือทานมื้อค่ำที่ร้านรักษ์เล ร้านขึ้นชื่อประจำเกาะ แต่ส่วนตัวผมว่ารสชาติมันกลาง ๆ ไม่อร่อยไม่แย่นะ แต่ไม่มีรูป เพราะหิวมาก ไม่ทันได้ถ่าย แหะๆ เสร็จแล้วก็กลับรีสอร์ท พักผ่อนกัน


ดาวเต็มท้องฟ้าเลย
บรรยากาศยามค่ำคืนหน้ารีสอร์ท


     เรื่องราวในวันถัดไป ติดตามอ่านต่อได้ใน ตอนที่ 2 นะครับ... ขอบคุณครับ





--- Share this ---