ฟ้าเปลี่ยนสีก่อนอาทิตย์จะขึ้น |
อาทิตย์ขึ้นแล้วก็หลบไปอยู่ด้านหลังเมฆ |
โมบายหน้าที่พัก |
โฉมหน้าผู้ร่วมเดินทาง ทำไมหน้าตาดีใจกันขนาดนั้น...? |
เรือประมงที่เจอกลางทาง |
เรือเล็กควรออกจากฝั่ง ออกทะเลกัน!! |
เกาะหินซ้อน เกาะที่มียักษ์แบกหินขึ้นไปวางซ้อนกัน (มั่วไปนั่น) |
น้ำใส ๆ หน้าเกาะรอกลอย |
เรือจอดเทียบชายหาด |
น้ำใส ไหลเย็น เห็นขาอ่อน เอ้ยทรายขาว ณ เกาะรอกลอย |
เกาะหินงาม เกาะที่ผู้คนต่างมาซ้อนหินกัน แม้ทาง อช. จะห้ามก็ตาม |
เกาะหินงาม อุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา เกาะที่มีทั้งคำสาปและความเชื่อมายาวนาน " “...ผู้ใดบังอาจเก็บหินจากเกาะนี้ไป ผู้นั้นจะพบแต่ความหายนะ นานาประการ จะกลับไม่ถึงบ้าน จะประสบอุบัติเหตุ จะหลุดพ้นจากหน้าที่การงาน จะพบภัยพิบัติไม่มีที่สิ้นสุด...” และหากเรียงหินเป็นเจดีย์หินได้สำเร็จแล้วอธิษฐานจะสมมาดปรารถนา
สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับทริปนี้ การดำน้ำ! |
อีกสักรูป... ฟินกันสุด ๆ |
ทริปดำน้ำนี้ใช้เวลาตั้งแต่ประมาณ 9 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น หลังจากเสร็จภารกิจ พวกเราก็ขึ้นฝั่ง พักผ่อน เตรียมตัวสำหรับค่ำคืนนี้ที่ถนนคนเดินเหมือนเดิม
นายแบบตัวน้อยกับป้ายที่พักศลิษารีสอร์ท |
บรรยากาศหน้าที่พักยามเย็น |
ส่วนเช้าวันต่อมา พวกเราก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางเดิมกลับตอนที่มา และแวะทานมื้อเที่ยงและหาซื้อของฝากที่ตรัง ซึ่งร้านเป้าหมายของเรานั้นก็คือร้านริชชี่ ร้านขึ้นชื่อในจังหวัดตรัง ขอเก็บไว้รีวิววันหลังนะครับร้านนี้
ค่าเสียหายตลอดทริปตกประมาณคนละ 7,000 บาท โดยที่ทริปนี้พวกเรากินกันเต็มที่ เที่ยวเต็มที่เลยทีเดียว
สรุป
- เป็นสถานที่น่าพักผ่อน ถ้าจะไปควรรีบไป ก่อนจะแออัดกว่านี้และความงามด้อยลงไป
--- Share this ---